.........
"ปฏิญญาฟินแลนด์" คืออีก 1 ในความสกปรกของการเมืองไทย
มีคนโดนฟ้องไป 4 คน เพราะดันไป "มโน" หมิ่นประมาท "ทักษิณ"
ว่าริอาจจะเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยด้วย "ปฏิญญาฟินแลนด์"
คือ
1.นายปราโมทย์ นาครทรรพ
ผู้ซึ่งเคยได้รับเชิญไปงานของ US Embassy
แต่โดน "เหลี่ยมทางการทูต" ของไอ้กันประจานแบบเนียนๆ
ด้วยการระบุที่หน้าจดหมายเชิญว่าเป็น Anti-Thaksin Activist
2.นางสาวเสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์
3.นายขุนทอง ลอเสรีวานิช
และ 4.นายปัญจภัทร อังคสุวรรณ
3 ตัวหลังนี้ทำมาหารับประทานอยู่กับสื่อในเครือไอ้แป๊ะลิ้ม
หลังจากต่อสู้คดีกันมานาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายปราโมทย์ และ นายขุนทอง คนละ 1 ปีและปรับเงินคนละ 1 แสนบาท แต่โทษจำคุกนั้นศาลให้รอลงอาญา 2 ปี
จำเลยทั้ง 2 ขออุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องนายขุนทอง (รอดไปนะเมิง)
ส่วนนายปราโมทย์สู้ถึงฎีกา
ซึ่งศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
นั่นก็คือจำคุกนายปราโมทย์ 1 ปี และ ปรับ 1 แสนบาท
แต่โทษจำคุกนั้นให้รอรอลงอาญา 2 ปี
คำถามก็คือไอ้ที่ไปกล่าวหาเขาไปปลุกปั่นเหล่าสาวก ว่า ทักษิณ จะเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยด้วย "ปฏิญญาฟินแลนด์" นั้น
ปลุกปั่นกันจนสาวกเชื่อ
ปลุกปั่นกันจนคนอื่นเสียหาย
ไอ้พวกนี้มันคิดที่จะสารภาพบาป และ เอ่ยคำขอโทษเขาหรือไม่ ?????
ปฏิญญาฟินแลนด์ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะครับ
เพราะในรายละเอียดที่ไอ้พวก "ปากมอม" มันพูดกันเมามันส์นั้น 5 ข้อของปฏิญญาฟินแลนด์ มันสร้างความเสียหางในทางภาพพจน์ให้อีกฝ่ายอย่างมหาศาล
มีการ"มโน"กันว่า
เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 2542
โดยเครือข่ายทักษิณ นั่งเครื่องบินไปคุยกันที่ฟินแลนด์
แหมๆๆโคตรจะขรรมเลยว่ะ
พรรคไทยรักไทย ก่อตั้งกลางปี 2541
นี่แสดงว่าพอก่อตั้งขึ้นมาก็ไม่ต้องคิดหาทำอะไรเลยหรือ ??
ไม่ต้องทำ Action Plan ทำ Research เพื่อจะต่อสู้ในสนามเลือกตั้งเลยหรือ ??
ก่อตั้งมาได้แค่แป๊บเดียวกลางปี 41พอปี 42 ก็เฮโลกันไปทำเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์เลยหรือ ??
แถมยังต้องเสียค่าเรือบิน
เพื่อที่จะลากสังขารไปคุยกันในอากาศหนาวๆ
กับไอ้ 5 ข้อ ที่ไอ้พวกแก๊งนี้เอามากล่าวหาเขาด้วยหรือ ???
แหมมมม....เช่าโรงแรมคุยกันที่เมืองไทยก็ได้ครับ..ยิ่งคิดยิ่งขำว่ะ..!!!!!!
จริงๆแล้วคนที่เริ่มพล่ามเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ น่าจะเป็น "คนดี" ที่ชื่อ
"นายโสภณ สุภาพงษ์" ครับ
เพราะไอ้หมอนี่ไปเจื้อยแจ้วไว้ในงานเสวนา
ก่อนที่จะไปพล่ามต่อในรายการทีวีของไอ้แป๊ะลิ้ม
5 ข้อที่ว่าของ "ปฏิญญาโจ๊ก" ก็คือ
1.ต้องยึดรากหญ้าให้ได้
2.ใช้ทุนนิยมเป็นระบบเศรษฐกิจหลักของประเทศ
3. จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
4.รื้อระบบราชการทั้งหมด
5.เป็นเรื่องที่มิบังควรเขียน เพราะอาจกลายเป็น "หมอหยอง" ไปอีกคน
แถมยังมีการโยงด้วยว่า
ไอ้พวกที่นั่งเครื่องบินไปคุยกันนั้น เป็น "นักเคลื่อนไหวที่อยู่ในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย"
อั้ยย่ะ!!....เมารึเปล่าว๊ะ ???
ในปี 2542 นั้น พรรคคอมฯมันยังมีอยู่อีกหรือ ???
พรรคนี้มันยังทำกิจกรรมทางการเมืองอีกหรือ ???
จะป้ายสีพรรคไทยรักไทย
แต่ดันเสือกโยงไปถึงพรรคคอมฯ
โคตรจะมีจินตนาการเลยว่ะ...5555555..........
และ ที่ขำชนิดสุดกระดิ่งติ่งแมวก็คือ
การที่ไอ้แก๊งนี้"มโน" เพื่อที่จะสะกดจิตสาวกว่า
ไอ้นักเคลื่อนไหวที่อยู่ในพรรคคอมมินิสม์ดันเสนอให้ใช้ เศรษฐกิจแบบทุนนิยม...!!!!
โอ๊ยยยย...มีอะไรฮาไปกว่านี้มั๊ยเนี่ย...!!!!!
เป็นคอมมิวนิสท์ แต่ทะลึ่งเสือกชอบทุนนิยม (สาวกมันก็ดันเชื่ออีกต่างหาก)
ยังไม่นับว่าเรื่องนี้เกิดขี้นในปี 2542 (หากมันเกิดขึ้นจริง)
แต่กว่าเรื่องจะแดงเป็นที่โจษจันดันใช้เวลาถึง 7 ปี เพราะมาแดงเอาในปี 2549
แหมมมมมมมม...
สงสัยแก๊งไอ้แป๊ะลิ้มนี่มันใช้ "โทรเลข" สื่อสารกันแน่ๆ
กล่าวหาเขามันส์ปากจนเขาเสียหาย
และ ถูกตราหน้าว่าอยากเป็นประธานาธิบดี
กล่าวหาเขาอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีพยานหลักฐานยืนยัน
กล่าวหาเขาอย่างต่อเนื่อง
โยงไปนั่นไปนี่แบบขาด Logic
ถึงวันนี้มีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า
ไอ้สิ่งที่ใส่ร้ายป้ายสีเขามาตั้งแต่ปี 2549 นั้น
มันล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ไอ้แก๊งนี้โกหกมดเท็จทั้งสิ้น
และที่น่ากลัวก็คือ ไอ้พวกแก๊งนี้บางตัว
ยังอยู่ดีมีสุขและได้ดิบได้ดี
หลังรัฐประหาร 22 พค.57 อีกต่างหากครับ....!!!!!!!
************************
ศาลฎีกา พิพากษา คุก1ปี ปรับ1แสน "ปราโมทย์ นาครทรรพ" หมิ่นทักษิณ ปฏิญญาฟินแลนด์
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.